กัญชาในจีน…is a big no-no
ในขณะที่ประชาคมโลกมีแน้วโน้มที่จะเปิดรับพืชวงศ์กัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจที่มีประโยชน์ทางด้านการแพทย์มากมาย ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอย่างจีนยังมองกัญชาเป็นยาเสพติดร้ายแรงที่จะต้องกำจัดทิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ประชาชนที่ใช้สมุนไพรชนิดนี้ในเชิงสันทนาการ
หนึ่งในกรณีที่ทำให้ชาวโลกเห็นว่ารัฐบาลจีนเอาจริงเอาจังในการปราบปรามผู้ใช้กัญชาคือการสั่งแบนคนดังจำนวนมากในปี 2014 โทษฐานเสพกัญชาและใช้บริการผู้ค้าประเวณี ไม่ให้รับงานแสดงภาพยนตร์ โฆษณา ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์ โดยหนึ่งในเหล่าเซเลบริตี้ที่โดนแบนคือลูกชายของ เฉิน หลง
ต่อกรณีดังกล่าว รัฐบาลจีนมองว่าเป็นการสร้างตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนในประเทศ
หลายปีหลังจากนั้น ยังไม่มีทีท่าว่ารัฐบาลจีนจะเปิดใจยอมรับกัญชาเสียเท่าไหร่ โดยในปี 2019 รัฐบาลจีนได้แสดงความคิดเห็นต่อความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะทำให้กัญชาถูกกฎหมายว่า “เป็นภัยต่อประเทศจีน”
อย่างไรก็ดี แม้ว่าทางการจีนยังต่อต้านกัญชาและสาร THC ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและทำให้เกิดอาการเมา แต่มุมมองที่มีต่อกัญชงและ CBD กลับค่อนข้างตรงกันข้าม
“กัญชง” ในประวัติศาสตร์และตำนานของจีน
ภาพ: Grapheine
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีของจีน “กัญชง” มีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะสิ่งของเครื่องใช้อันเนื่องมาจากความทนทานของเส้นใย เช่น สิ่งทอ อาวุธ (คันธนู) และเบ็ดตกปลา เป็นต้น
นอกจากจะถูกนำมาใช้เป็นทั้งอาวุธและสิ่งของแล้ว ยังเป็นที่เชื่อกันในวงกว้างว่ากัญชงมีสถานะเป็นยาแผนโบราณอีกด้วย โดยกัญชงปรากฏอยู่ในตำนานเรื่องเล่าของจักรพรรดิ “เฉินหนง” ในฐานะสมุนไพรอายุวัฒนะที่ทำให้ร่างกายเบาขึ้น
ไม่ว่าตำนานดังกล่าวจะจริงเท็จแค่ไหน แต่การแพทย์แผนปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่ากัญชงอุดมไปด้วยสาร CBD ที่มีสรรพคุณรักษาโรคลมชักและบรรเทาความผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ได้
ครีม CBD = ทองคำในโลกของเศรษฐกิจจีน
ภาพ: Leisa Tyler/LightRocket, via Getty Images
ไม่ว่ารัฐบาลจีนจะเข้มงวดกับการที่ประชาชนของตัวเองใช้กัญชาเชิงสันทนาการเพียงใด แต่มีหรือที่ “พ่อค้าขายทุกอย่างแห่งเอเชีย” จะยอมปล่อยให้โอกาสทางเศรษฐกิจที่มาพร้อมกับสมุนไพรวงศ์กัญชาหลุดลอยไป
ในช่วงปลายปี 2019 The Wall Street Journal รายงานว่าจีนมีความพยายามในการสร้างอุตสาหกรรมสินค้าที่มีสารสกัดจาก “กัญชง” เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ตอนนี้จีนเป็นประเทศที่มีพื้นที่ปลูกกัญชงมากที่สุด หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของพื้นที่ปลูกทั้งหมดในโลก (อ้างอิงจาก GlobeNewswire)
มณฑลยูนนานและเฮย์หลงเจียงป็น 2 พื้นที่แรกที่รัฐบาลกลางอนุญาตให้ปลูกกัญชง ในขณะนี้มณฑลจี๋หลินกำลังรอการอนุมัติให้เป็นพื้นที่ปลูกแหล่งที่ 3 ของจีน
Simpcare หนึ่งในแบรนด์สกินแคร์ของจีนที่ชูส่วนผสม CBD จาก “กัญชง”
ภาพ: Simpcare
แม้ว่าข่าวคราวของวงการกัญชาและกัญชงเพื่อการแพทย์ในจีนจะไม่ได้เป็นกระแสมากนัก แต่รัฐบาลจีนอนุญาตให้บริษัทเครื่องสำอางและสกินแคร์ใช้สาร CBD เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ได้ตั้งแต่ปี 2015
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสการใช้สาร CBD ในเครื่องสำอางกลายมาเป็นที่จำตามองในประเทศโลกตะวันตกและมีตลาดที่ใหญ่เป็นของตัวเองเนื่องจากแคนนาบินอยด์ตัวนี้มีคุณสมบัติลดอาการแพ้ อักเสบ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างฟื้นฟูผิวอีกด้วย
สกินแคร์สัญชาติจีนจำนวนมากจึงเริ่มเข้ามาจับตลาดดังกล่าวโดยชู CBD เป็นส่วนผสมหลัก อาทิ แบรนด์ Simpcare และ 2XY ที่เปิดตัวไลน์สกินแคร์ผสมแคนนาบินอยด์ตัวดังกล่าว สะท้อนว่าชาวจีนและรัฐบาลเริ่มมองแง่ดีของกัญชง
มีแนวโน้มว่าตลาดสกินแคร์ CBD ในจีนจะเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังวิกฤตการณ์ COVID-19 จบลง
แม้ว่าประเทศจีนจะเปิดรับกัญชงและสาร CBD มากขึ้นเพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่การค้าสาร THC ยังมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตตลอดจนประหารชีวิตเพราะยังถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษอยู่
แต่ไม่ว่าสถานการณ์ทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดคือในอนาคตอันใกล้นี้ จีนจะเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าผสมสารแคนนาบินอยด์รายใหญ่ได้หรือไม่
เรื่องง่าย ๆ ที่นักปลูกต้องจำให้แม่น
- รู้จักคุณภาพน้ำดีแล้วหรือยัง? วัดคุณภาพน้ำยังไง?
- ค่า pH กรด-เบส ส่งผลต่อการดูดซึมอาหารของพืชยังไง – วิธีปรับค่า วัดค่า pH
- ทำความเข้าใจเรื่องค่าการนำไฟฟ้า (EC) + ค่าที่เหมาะกับการปลูกกัญชา
ขอบคุณข้อมูลจาก CNN, WSJ, Grapheine, Globenewswire, Jing Daily
ภาพหน้าปกดัดแปลงจาก: @tintedprism, @deeezyfree – Unsplash
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราสามารถคอมเม้นต์ข้างล่างหรือทักไปที่ Facebook ของเราได้เลย