การปลูกกัญชา Outdoor และ Indoor เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเรื่องดราม่ามากที่สุดเรื่องหนึ่งในวงการกัญชาว่าการปลูกแบบไหนดีกว่ากัน จริงๆแล้วการปลูกกัญชาทั้ง 2 แบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของนักปลูกไม่ว่าจะเป็น สถานที่ปลูก สภาพแวดล้อม ต้นทุนในการปลูก และอื่นๆ ในบทความนี้พี่หมีพาเพื่อนๆสำรวจข้อดีและข้อเสียของการปลูกทั้ง 2 แบบเพื่อให้เพื่อนๆสามารถเลือกวิธีการปลูกได้เหมาะสมกับตัวเองครับ
ปัยจัยในการปลูกที่ควรพิจารณา: ต้นทุน สภาพอากาศ คุณภาพ
การปลูกกัญชา Outdoor หรือ Indoor แบบไหนดีกว่ากัน พี่หมีเชื่อว่าควรดูเงื่อนไขในการปลูกของนักปลูกเป็นหลักจะดีที่สุดครับ สภาพอากาศและสถานที่ปลูกเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในการปลูกกัญชากลางแจ้งหรือ Outdoor เพราะพืชต้องการแสงแดดและความอบอุ่นในการเจริญเติบโต หากเพื่อนๆอยู่ในเมืองที่มีตึกบังหรืออยู่ในสถานที่ได้รับแสงแดดน้อยและมีฝนตกบ่อยการปลูกกัญชากลางแจ้งคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักเนื่องจากการการปลูกกัญชากลางแจ้งจะต้องคำนึงฤดูกาล ชั่วโมงแสงที่ต้นกัญชาได้รับหากเพื่อนๆมีเงื่อนไขดังกล่าวการปลูกกัญชาในที่ร่มหรือการปลูก Indoor คงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
การปลูกกัญชา Indoor สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิโดยใช้แอร์ การควบคุมแสงโดยไฟปลูกพืช การควบคุมความชื้นสัมพัทธ์โดยเครื่องดูดความชื้นและระดับ CO2 โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศหรือฤดูกาลในการปลูกเลยและยังได้ผลผลิตที่มักจะมีสารสำคัญต่างๆของกัญชา เช่น THC CBD สูงกว่าการปลูก Outdoor อีกด้วยแต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายในระยะยาวที่สูงกว่าการปลูก Outdoor ที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนมากในการทำห้องปลูกหรือใช้ไฟปลูกเพราะมีแสงแดดฟรีจากดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตามการปลูก Outdoor มีความเสี่ยงกับภัยธรรมชาติสูงกว่าหากเกิดภัยธรรมชาติขึ้นมามีโอกาสที่จะทำให้เพื่อนๆเสียผลผลิตไปทั้งหมดเลยก็ได้ครับ
ความแตกต่างระหว่างการปลูกกลางแจ้ง (Outdoor) และ ในที่ร่ม (Indoor)
การปลูก Outdoor และ Indoor มีวิธีการปลูกที่แตกต่างกันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันด้วย เรามาดูความแตกต่างระหว่างการปลูก Outdoor และ Indoor โดยทั่วไปกันเลยครับ
กลางแจ้ง (Outdoor)
- ใบสีเข้ม
- ดอกใหญ่
- ดอกหลวมกว่า
- ก้านใหญ่
- ไตรโคมไม่แน่น
ในที่ร่ม (Indoor)
- ดอกสีสดกว่า
- ดอกเล็กกว่า
- ดอกแน่น
- ก้านเล็ก
- ไตรโคมแน่น
การปลูกกลางแจ้ง (Outdoor)
การปลูกกัญชา Outdoor คือการปลูกกัญชากลางแจ้งเหมือนกับการปลูกพืชทั่วๆไป เพื่อนๆสามารถปลูกลงดินในสวนหลังบ้านหรือในกระถางริมระเบียงโดยให้พืชได้รับแสงจากดวงอาทิตย์และรับน้ำจากฝนที่ตกลงมาเป็นครั้งคราว การปลูกโดยไม่ได้ควบคุมปัจจัยภายนอกลักษณะนี้เรียกว่าการปลูก Outdoor ครับ การปลูก Outdoor เป็นการปลูกที่ Grower หลายๆคนกลัวเพราะไม่สามารถควบคุมชั่วโมงแสง สารอาหารในดินหากปลูกลงดิน อุณหภูมิ ระดับ CO2 และความชื้น อย่างไรก็ตามเมื่อเพื่อนๆไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกอย่างเรื่องแสงแดดทำให้เพื่อนๆไม่สามารถควบคุมการออกดอกของต้นกัญชาได้เช่นกัน เนื่องจากต้นกัญชาโดยทั่วไปจะรับรู้ช่วงเวลาออกดอกก็ต่อเมื่อชั่วโมงแสงที่พืชได้รับเปลี่ยนไป ในประเทศไทยหากเพื่อนๆต้องการปลูก Outdoor ควรปลูกในเดือนกันยายน-ตุลาคม และต้นจะเข้าสู้ช่วงทำดอกในเดือนธันวาคม-มกราคม (ในช่วงทำดอกไม่ควรเป็นหน้าฝน) ในกรณีที่เพื่อนๆต้องการลดความยุ่งยากในการปลูก Outdoor ตามช่วงฤดูกาล เพื่อนๆสามารถปลูกกัญชา Auto ที่ออกดอกอัตโนมัติภายใน 3 เดือนจะง่ายที่สุดครับ
ข้อดี
- ต้นทุนต่ำ
- ผลผลิตสูง
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- อากาศถ่ายเทได้ดี
- มีพื้นที่ในการปลูกมากกว่า
- ไม่ต้องควบคุมปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช
ข้อเสีย
- ควบคุมชั่วโมงแสงไม่ได้ควรปลูกตามฤดูกาล
- ควบคุมสารอาหารในดินไม่ได้หากปลูกลงดิน
- ป้องกันฝนได้ยากควรทำ GreenHouse
- ป้องกันแมลงได้ยาก
- ป้องกันเชื้อราได้ยาก
- ระบุปัญหาของพืชได้ยาก
การปลูกในที่ร่ม (Indoor)
การปลูกกัญชา Indoor คือการปลูกในที่ร่มพื้นที่ปิดไม่ว่าจะเป็นการปลูกในเต็นท์ ห้องปลูก หรือโรงเรือนระบบปิดที่สามารถควบคุม อุณหภูมิ กำลังแสง ชั่วโมงแสง สารอาหาร ความชื้น ระดับ CO2 น้ำที่พืชได้รับและการป้องกันแมลง นับได้ว่าควบคุมกระบวนการผลิตได้ทุกอย่างเลยครับ การปลูกกัญชา Indoor สามารถปลูกได้ตลอดปีเพราะสามารถกำหนดให้พืชทำใบหรือทำดอกได้โดยการปรับชั่วโมงแสงที่พืชได้รับเท่านั้น ช่วงทำใบเปิดไฟ 18 ชั่วโมงและปิดไฟ 6 ชั่วโมง (ทำใบนานเท่าไหร่ก็ได้ครับ) เมื่อเพื่อนๆต้องการให้พืชทำดอกให้ปรับชั่วโมงแสงเป็นเปิดไฟ 12 ชั่วโมงและปิดไฟ 12 ชั่วโมงพืชจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทำดอกภายใน 1-2 สัปดาห์ การปลูกในที่ร่มจะได้ผลผลิตที่ดีกว่าเพราะสามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้ทั้งหมด โรงเรือนส่วนใหญ่เลือกปลูกแบบในที่ร่มเพื่อต้องการกัญชาทางการแพทย์ (Medical grade) แต่ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการปลูกกลางแจ้งครับ
ข้อดี
ผลผลิตคุณภาพสูง สะอาด ปลอดภัย
เก็บเกี่ยวได้หลายรอบต่อปี
ควบคุมปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืชได้ทั้งหมด
ป้องกันเชื้อราได้ง่ายกว่า
ป้องกันแมลงได้ง่ายกว่า
ปลอดภัยไม่มีคนขโมย
ข้อเสีย
ใช้ต้นทุนสูงในการเริ่มปลูก
ค่าใช้จ่ายในการปลูกสูงโดยเฉพาะค่าไฟ
มีการปลูกที่ซับซ้อนกว่า
ต้องคอยดูแลรักษาทำความสะอาดอุปกรณ์การปลูก
ต้องคอยตรวจเช็คระบบต่างๆภายในห้องปลูก
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
สรุป
การปลูกกัญชากลางแจ้ง (Outdoor) คือการปลูกกัญชาในสภาพแวดล้อมแบบเปิดและการปลูกกัญชาในที่ร่ม (Indoor) คือการปลูกกัญชาในสภาพแวดล้อมแบบปิด การปลูกทั้ง 2 รูปแบบมีวิธีการปลูกและดูแลรักษาที่แตกต่างกันทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันเช่น สีของใบ ขนาดของดอก ความแน่นของดอก ลักษณะของก้านและความหนาแน่นของไตรโคม นอกจากผลลัพธ์ที่แตกต่างกันแล้ว การปลูกทั้ง 2 แบบยังมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันด้วยตามที่กล่าวไปข้างต้นซึ่งเพื่อนๆสามารถชั่งน้ำหนักว่าเงื่อนไขของเพื่อนๆเหมาะกับการปลูกประเภทไหนมากกว่ากัน หากอยู่ในบ้านหรือคอนโดที่ไม่มีพื้นที่ปลูกกลางแจ้งพี่หมีแนะนำว่าควรปลูกในที่ร่มจะดีที่สุดครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
Leafly, Cannaculture
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ GrowStuff ไฟปลูกต้นไม้ ปุ๋ย และอุปกรณ์การเกษตร
หรือบทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่ รวมบทความ Growstuff
#สายพันธุ์กัญชา outdoor #เมล็ดกัญชา outdoor
#ข้อดีของการปลูกกัญชาแบบoutdoor #ตู้ปลูกกัญชา diy