ข่าวสาร, กัญชาน่ารู้

กัญชาในต่างประเทศ มีประเทศอะไรบ้างที่ถูกกฎหมายและมีเงื่อนไขเป็นอย่างไรในปี 2023

กัญชาในต่างประเทศ
หลังจากกัญชาถูกกฎหมายในประเทศไทยมา 1 ปีกว่าแล้ว สายเขียวหลายคนคงสงสัยว่ากัญชาในต่างประเทศ มีประเทศอะไรบ้างที่ถูกกฎหมาย แต่ละประเทศมีเงื่อนไขเป็นอย่างไร เพราะประเทศที่ดูเหมือนว่ากัญชาถูกกฎหมายอย่างเสรีเช่น เมืองอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์กลับไม่ได้เสรีอย่างที่คิด สายเขียวควรเช็คให้ชัวก่อนไปท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจเพื่อจะได้รู้ขอบเขตว่าเราทำอะไรได้บ้าง มาเริ่มกัญเลย!
กัญชาในต่างประเทศ

ประวัติโดยย่อของกฎหมายกัญชาระดับโลก

ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องกัญชาในต่างประเทศที่ถูกกฎหมาย พี่หมีชวนเพื่อนๆทุกคนมมาทำความเข้าใจประวัติกัญชาในระดับโลกก่อนว่ามีที่มาโดยย่อเป็นอย่างไรและอะไรทำให้เรามาอยู่ในจุดนี้ เดิมทีในสังคมสมัยก่อน กัญชาไม่ถือว่าเป็นยาเสพติดและเป็นพืชที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั้งในด้านการแพทย์และใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเช่น กัญชาในประเทศไทยถูกใช้เป็นตำหรับยาเมื่อ 100 ปีก่อน หากย้อนกลับไปไกลกว่านั้นอย่างในประเทศจีน กัญชาถูกนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่ 3,000 ปีก่อน และอีกหลายๆประเทศ หลากหลายความเชื่อ หลากหลายชนเผ่าได้นำกัญชามาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนามาอย่างยาวนาน จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 หรือในช่วง ค.ศ. 1925 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญาฝิ่นสันนิบาตแห่งชาติเป็นการพยายามครั้งแรกๆที่ต้องการควบคุมการใช้กัญชา และในปี ค.ศ. 1934 ประเทศไอร์แลนด์ได้มีการห้ามใช้กัญชา ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ประเทศอเมริกาได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามใช้กัญชาเช่นกัน การเกิดขึ้นของกฎหมายห้ามใช้กัญชาและการทำให้เป็นยาเสพติดในระดับโลกเกิดมาจากแรงผลักดันโดยประเทศอเมริกาและ UN อนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดของสหประชาชาติในปี ค.ศ. 1961 ได้จัดประเภทกัญชาว่าเป็นยาเสพติด อย่างไรก็ตามทัศนคติเช่นนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปในปลายศตวรรษที่ 20 ทั้งจากประเทศอเมริกา ประเทศแคนาดา และประเทศในทวีปยุโรป ในปี 1996 รัฐ California เป็นรัฐแรกที่ออกกฎหมายให้สามารถใช้กัญชาทางแพทย์ได้ในขณะที่กฎหมายนี้ขัดกับกฎหมายหลักของประเทศ ต่อมาในปี 2012
รัฐ Colorado และ Washington เป็น 2 รัฐแรกของอเมริกาที่กัญชาถูกกฎหมายในทางสันทนาการ

ประเทศในทวีปอเมริกาที่กัญชาถูกกฎหมาย

ประเทศแคนาดาและอุรุกวัยเป็นสองประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายทุกรูปแบบและถูกกฎหมายทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามหลายๆรัฐในประเทศอเมริกาได้ออกกฎหมายให้กัญชาทางการแพทย์ถูกกฎหมายหรือเลือกที่จะลดทอนความเป็นอาชญากรรมให้กับผู้ใช้กัญชา อีกทั้งยังมีอีกหลายประเทศในทวีปนี้ที่ใช้มาตราการดังกล่าว ประเทศในทวีปอเมริกาที่กัญชาถูกกฎหมายมีดังนี้

กัญชาในต่างประเทศ

ประเทศแคนาดา (Canada)

ประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่เสรีกัญชาในอับดันต้นๆของโลก กัญชาถูกกฎหมายทั้งในเชิงการแพทย์และสันทนาการ สามารถซื้อขาย ครอบครอง และบริโภคได้โดยไม่ผิดกฎหมายและโดยจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปครอบครองได้ไม่เกิน 30 กรัม ปลูกได้บ้านละ 4 ต้น ส่งผลให้ประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่มีตลาดกัญชาที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลกอีกด้วย

ประเทศสหรัฐอเมริกา (United States)

สหรัฐอเมริกายังคงมีข้อห้ามของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับกัญชาอยู่และยังจัดกัญชาเป็นยาเสพติดประเภทที่ 1 อย่างไรก็ตามแต่ละรัฐมีอิสระที่จะเพิกเฉยต่อข้อห้ามของรัฐบาลกลางโดยการออกกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของแต่ละรัฐเองได้ มี 37 รัฐในอเมริกาที่กัญชาถูกกฎหมายในเชิงการแพทย์ และอีกหลายๆรัฐที่กัญชาถูกกฎหมายทั้งการแพทย์และสันทนาการซึ่งข้อกำหนดในการครอบครองและข้อกำหนดอื่นๆขึ่้นอยู่กับรัฐนั้นๆ

ประเทศเม็กซิโก (Mexico)

ประเทศอื่นๆที่มีสงครามยาเสพติดจะไม่ทำให้กัญชาถูกกฎหมาย แต่กลับตรงกันข้ามกับประเทศเม็กซิโกที่พยายามทำให้กัญชาถูกกฎหมาย แม้ว่าการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเป็นทางการไม่สำเร็จ แต่การทำให้ถูกกฎหมายโดยพฤตินัยยังคงมีอยู่ ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครองได้ไม่เกิน 5 กรัม ในปี 2021 ศาลฎีกาของเม็กซิโกได้ลดทอนความเป็นอาชญากรรมสำหรับการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการและคาดว่าจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยสมบูรณ์เร็วๆนี้

ประเทศอาร์เจนตินา (Argentina)

อาร์เจนตินากลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่กัญชาถูกกฎหมายในปี 2017 สำหรับการใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะโรคที่ใช้กัญชาได้เท่านั้น นอกจากนี้ยังกลายเป็นประเทศเดียวในโลกในขณะนั้นที่ให้บริการกัญชาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยฟรี ในปี 2022 รัฐบาลลดทอนความเป็นอาชญากรรมสำหรับการครอบครองกัญชาจำนวนเล็กน้อยเพื่อใช้ส่วนตัว อย่างไรก็ตามการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการยังคงผิดกฎหมาย

ประเทศเบลีซ (Belize)

เบลีซลดทอนความเป็นอาชญากรรมในการใช้กัญชาส่วนบุคคลในปี 2021 โดยยอมรับถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของกัญชา ส่งผลให้การครอบครองกัญชาต่ำกว่า 10 กรัมไม่ผิดกฎหมาย ถ้าหากครอบครองเกินกว่าจำนวนนี้ถือว่าผิดกฎหมาย อีกทั้งไม่สามารถซื้อขายกัญชาได้นอกจากซื้อขาย CBD ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศเท่านั้น

ประเทศโคลอมเบีย (Colombia)

โคลอมเบียเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องยาเสพติดและเป็นประเทศที่มีสงครามยาเสพติดมาอย่างยาวนาน แต่สำหรับกัญชาในประเทศโคลอมเบียถูกกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และลดทอนความเป็นอาชญากรรมให้กับการใช้ส่วนตัว สามารถครอบครองได้สูงถึง 22 กรัม ปลูกได้บ้านละ 20 ต้น

ประเทศคอสตาริกา (Costa Rica)

คอสตาริกาเป็นประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลก สำหรับกฎหมายกัญชาเป็นประเทศหนึ่งในอเมริกากลางที่ลดทอนความเป็นอาชญากรรมในการใช้กัญชาส่วนบุคคลเหมือนกับประเทศเบลีซและกัญชาทางแพทย์ยังถูกกฎหมายอีกด้วย แม้ว่าการใช้กัญชาในเชิงสันทนาการยังผิดกฎหมายอยู่ แต่ตำรวจไม่ค่อยสนใจมากนัก

ประเทศชิลี (Chile)

ชิลีเป็นประเทศที่ล้อมไปด้วยภูเขาและหุบเขาสวยงามมากมาย สำหรับกัญชาในประเทศนี้ถูกกฎหมายในเชิงการแพทย์เท่านั้น การใช้ในเชิงสันทนาการยังผิดกฎหมายอยู่ อย่างไรก็ตามการใช้เชิงสันทนาการถูกลดทอนความเป็นอาชญากรรมลงหากครอบครองไม่เกิน 10 กรัมจะมีโทษปรับหรือเข้าโครงการบำบัดเท่านั้น ไม่มีโทษทางอาญา

ประเทศเอกวาดอร์ (Ecuador)

กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเอกวาดอร์ทั้งในด้านการแพทย์และสันทนาการ ห้ามครอบครอง เพาะปลูก หรือซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 ศาลรัฐธรรมนูญของเอกวาดอร์ได้ลดทอนความเป็นอาชญากรรมในการครอบครองกัญชาจำนวน 10 กรัม เพื่อใช้ส่วนตัวจะมีโทษปรับหรือเข้าโครงการบำบัดเท่านั้น ไม่มีโทษทางอาญาเช่นเดียวกับประเทศชิลี

ประเทศจาเมกา (Jamaica)

จาเมกาเป็นประเทศสวรรค์ของกัญชาซึ่งเกิดจากความโด่งดังของลัทธิราสตาฟาเรียน อีกทั้งยังเป็นประเทศแรกๆที่คนส่วนใหญ่คิดว่ากัญชาถูกกฎหมาย ในความเป็นจริงกัญชาในจาเมกาไม่ได้เสรีเท่ากับประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตามในปี 2015 ประเทศจาเมกาได้ลดทอนลดทอนความเป็นอาชญากรรมในการครอบครองกัญชาจำนวน 56.6 กรัมเพื่อใช้ส่วนตัวและมีโทษปรับเพียง 500 ดอลลาร์จาเมกา (หรือประมาณ 176 บาทเท่านั้น) การแก้ไขดังกฎหมายกล่าวอนุญาตให้นำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์และการวิจัยได้ อีกทั้งชาวจาเมกาสามารถปลูกได้บ้านละ 5 ต้นอีกด้วย จาเมกาเป็นประเทศแรกที่ทำให้กัญชาถูกกฎหมายสำหรับการใช้ทางศาสนาและลัทธิราสตาฟาเรียนสามารถใช้กัญชาอย่างเสรีสำหรับประกอบพิธีกรรม

ประเทศอุรุกวัย (Uruguay)

อุรุกวัยเป็นประเทศแรกที่กัญชาถูกกฎหมายในเดือนสิงหาคม 2014 ทั้งในเชิงทางการแพทย์และสันทนาการ อนุญาตให้ครอบครองกัญชา เพาะปลูก และซื้อขาย โดยประชาชนทั่วไปสามารถปลูกได้บ้านละ 6 ต้น รวมถึงการจัดตั้ง Cannabis Social Clubs เพื่อควบคุมการจำหน่ายกัญชาของร้าน Cannabis Dispensary และการจัดตั้งสถาบันกำกับดูแลกัญชา (Instituto de Regulación y Control del Cannabis หรือ IRCCA ) โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามรัฐบาลอุรุกวัยไม่อนุญาตให้จำหน่ายกัญชาแก่นักท่องเที่ยว หากต้องการซื้อกัญชาจะต้องให้ชาวอุรุกวัยเป็นคนซื้อแทน

ประเทศในทวีปยุโรปที่กัญชาถูกกฎหมาย

หากยึดตามกฎหมายหลักของประเทศต่างๆในยุโรปไม่มีประเทศใดที่กัญชาถูกกฎหมายในเชิงสันทนาการเลย มีเพียงแค่กัญชาที่ถูกกฎหมายในเชิงทางการแพทย์หรือบางประเทศมีเพียงนโยบายลดทอนความเป็นอาชญากรรมเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีอีกหลายๆในประเทศในยุโรปที่กำลังทบทวนกฎหมายกัญชาใหม่ในปัจจุบันเพื่อเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัย ประเทศในทวีปยุโรปที่กัญชาถูกกฎหมายมีดังนี้

กัญชาในต่างประเทศ

สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)

สาธารณรัฐเช็กได้ลดทอนความเป็นอาชญากรรมสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2010 และถูกกฎหมายในเชิงการแพทย์ในปี 2013 ส่วนการใช้ทางสันทนาการยังคงผิดกฎหมายอยู่ อย่างไรก็ตามประเทศสาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรป (EU) ที่อนุญาตให้มี THC ในผลิตภัณฑ์จากกัญชงไม่เกิน 1% ในขณะที่ประเทศอื่นๆจะต้องมีปริมาณสาร THC น้อยกว่านี้หรือต้องไม่มีเลย

ประเทศลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)

ลักเซมเบิร์กประเทศเล็กๆในทวีปยุโรปที่กัญชาพึ่งถูกกฎหมายไปสดๆร้อนๆเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา ประชาชนทั่วไปสามารถใช้กัญชาได้ทั้งสันทนาการและการแพทย์ การใช้เชิงสันทนาการจะต้องใช้ภายในบ้านเท่านั้น รวมถึงสามารถปลูกกัญชาได้สูงสุดบ้านละ 4 ต้นอีกด้วย ส่วนการซื้อขาย ขนส่ง หรือใช้งานในพื้นที่สาธารณะยังมีความผิด

ประเทศมอลตา (Malta)

มอลตาเป็นประเทศแรกในยุโรปทีทำให้กัญชาถูกกฎหมายสำหรับสันทนาการในปี 2021 และยังถูกกฎหมายสำหรับการใช้ทางการแพทย์อีกด้วย ประชาชนที่มีอายุเกิน 18 ปี สามารถครอบครองกัญชาได้ 7 กรัม ปลูกได้บ้านละ 4 ต้น รวมถึงการจัดตั้ง Cannabis Social Clubs เพื่อควบคุมการจำหน่ายกัญชาภายในประเทศ

ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands)

เมื่อนึกถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ คนส่วนใหญ่จะคิดว่ากัญชาถูกกฎหมายเพราะเมืองอัมสเตอร์ดัมสามารถใช้กัญชาในเชิงสันทนาการได้ อีกทั้งมีร้าน Coffee Shop ที่สามารถใช้งานกัญชาภายในร้านได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามกัญชาในประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่ได้ถูกกฎหมาย รวมถึงไม่อนุญาตให้ผลิตอีกด้วยแต่การใช้กัญชาในเชิงสันทนาการสามารถทำได้เพราะเนเธอร์แลนด์มีนโยบายที่ต้องการลดความเสี่ยงในการใช้ยาเสพติดและมีกฎหมายลดทอนความเป็นอาชญากรรม ถึงแม้ว่าเนเธอร์แลนด์จะไม่ใช่ประเทศที่กัญชาถูกกฎหมาย 100% แต่ก็เป็นประเทศที่เป็นมิตรสำหรับสายเขียว

ประเทศโปรตุเกส (Portugal)

โปรตุเกสออกนโยบายลดทอนความเป็นอาชญากรรมยาเสพติดทุกประเภทในปี 2011 ส่งผลให้กัญชาถูกลดทอนความเป็นอาชญากรรมด้วย และในปี 2018 โปรตุเกสได้ออกกฎหมายใหม่ทำให้ประชาชนสามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ แต่การซื้อขาย นำเข้า หรือเพาะปลูกยังผิดกฎหมายในประเทศ ส่วนการใช้ในเชิงสันทนาการส่วนตัว สายเขียวน้อยคนนักที่จะถูกดำเนินคดี

ประเทศสเปน (Spain)

ประเทศสเปนได้ลดทอนความเป็นอาชญากรรมให้กับการครอบครองและการใช้กัญชาโดยสามารถครอบครองกัญชาเพื่อใช้ส่วนตัวได้สูงถึง 100 กรัม แต่ไม่สามารถนำออกมาในพื้นที่สาธารณะได้ รวมถึงสามารถเพาะปลูกกัญชาได้ตราบใดที่ไม่ได้ปลูกเพื่อเชิงพาณิชย์ ภายใต้ข้อกฎหมายนี้เองทำให้สเปนมี Cannabis Clubs หรือคลับส่วนตัวสำหรับใช้กัญชาหรือพบปะสายเขียว

ประเทศเยอรมนี (Germany)

กัญชาในประเทศเยอรมนีถูกกฎหมายเฉพาะการใช้ทางการแพทย์ที่จำกัด และการใช้กัญชาสำหรับสันทนาการยังผิดกฎหมาย แม้ว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ถูกดำเนินคดี แต่เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลบาลประเทศเยอรมันได้ลงนามปรับเปลี่ยนนโยบายกัญชาใหม่โดยทำให้การใช้กัญชาเชิงสันทนาการและการเพาะปลูกกัญชาสามารถทำได้ สามารถครอบครองเพื่อใช้ส่วนตัวได้ 25 กรัมและต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป กฎหมายใหม่นี้จะต้องรอให้รัฐสภาอนุมัติก่อน

ประเทศในทวีปเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลางที่กัญชาถูกกฎหมาย

ประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลางโดยทั่วไปกัญชามักจะผิดกฎหมาย หลายๆประเทศมีโทษที่รุนแรงสำหรับการ เพาะปลูก ซื้อขาย หรือใช้กัญชา ตั้งแต่การจำคุกที่ยาวนานไปจนถึงขั้นประหารชีวิตหากมีครอบครองหรือนำเข้าในจำนวนมาก ส่งผลให้ประเทศในทวีปเหล่านี้มีเพียงไม่กี่ประเทศที่กัญชาและสาร THC ถูกกฎหมายหรือถูกลดทอนความเป็นอาชญากรรม ทวีปอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลางที่กัญชาถูกกฎหมายมีดังนี้

กัญชาในต่างประเทศ

ประเทศอิสราเอล (Israel)

อิสราเอลเป็นประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายในเชิงการแพทย์มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ใช้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่การใช้กัญชาในเชิงสันทนาการยังผิดกฎหมายอยู่ถึงแม้ว่าจะถูกลดทอนความเป็นอาชญากรรมไปแล้วก็ตาม หากมีกัญชาครอบครองไว้เพื่อสันทนาการแต่ไม่เกิน 15 กรัมและใช้ภายในบ้านเท่านั้นจะไม่ถูกดำเนินคดี ประเทศอิสราเอลมีแนวโน้มที่การใช้กัญชาในเชิงสันทนาการจะถูกกฎหมายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ประเทศเลโซโท (Lesotho)

เลโซโทประเทศเล็กๆในทวีปแอฟริกาที่อนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ แต่จะต้องมีใบอนุญาตในการปลูกจากรัฐบาลเสียก่อน ส่วนการนำกัญชาไปใช้ในเชิงการแพทย์รัฐบาลเลโซโทยังไม่มีนโยบายดังกล่าวรวมถึงการใช้การกัญชาเชิงสันทนาการยังผิดกฎหมาย การเพาะปลูกกัญชารวมถึงการใช้กัญชาในเชิงสันทนาการเป็นที่ยอมรับในประเทศส่งผลให้สายเขียวที่มีกัญชาไว้ใช้ส่วนตัวไม่ถูกดำเนินคดี

ประเทศแอฟริกาใต้ (South Africa)

แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายและเป็นยาเสพติดไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น การเพาะปลูก การใช้กัญชาในเชิงสันทนาการ และการครอบครองซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ภายในพื้นที่ส่วนตัวเท่านั้นไม่สามารถนำออกมาสู่พื้นที่
สาธาณะได้ หากไม่ได้ใช้ในพื้นที่ส่วนตัวจะถูกดำเนินคดีในในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนการใช้ทางการแพทย์จะต้องมีแพทย์เป็นผู้อนุมัติการใช้งานเท่านั้น

ประเทศไทย (Thailand)

ประเทศไทยได้ปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดเมื่อ 9 มิถุนายน 2565 ส่งผลให้การเพาะปลูก การซื้อขาย การใช้กัญชาทางแพทย์และสันทนาการถูกกฎหมายไปด้วย ถึงแม้ว่ากัญชาจะถูกปลดล็อคจากยาเสพติดแต่ไม่ได้หมายความว่าสามารถใช้ได้อย่างเสรีเหมือนกับพืช ผัก หรือผลไม้ เพราะยังมีกฎหมายควบคุมบางประการเช่น ผู้ซื้อกัญชาจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ห้ามใช้ในพื้นที่สาธารณะ การเพาะปลูกภายในครัวเรือนหรือเพื่อเชิงพาณิชย์จะต้องจดแจ้งหรือขอใบอนุญาต หากต้องการขายกัญชาจะต้องขอใบอนุญาต ห้ามขายออนไลน์ ห้ามโฆษณา ไม่อนุญาตให้นำเข้าช่อดอกหรือลำต้นแต่สามารถนำเข้าเมล็ดหรือสารกัญชาเพื่อใช้ในทางวิทยาศาสตร์ได้แต่ต้องขออนุญาตก่อน ห้ามใช้สารสกัดที่มี THC เกิน 0.2% จะต้องขออนุญาตเช่นกัน ไม่กำหนดปริมาณในการครอบครอง

สรุป

จะเห็นได้ว่าหลายๆประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะทวีปอเมริกาและทวีปยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 21 หรือในช่วงปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมาได้ปรับเปลี่ยนกฎหมายกัญชาอีกครั้งโดยการยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้นหลังจากเปลี่ยนสถานะกัญชาเป็นยาเสพติดในช่วงศตวรรษที่ 20 อีกทั้งประเทศอื่นๆมีแนวโน้มที่กัญชาจะถูกกฎหมายเพิ่มมากขึ้น นับได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำรับสายเขียวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่จะได้เห็นพืชแห่งรอยยิ้มนี้เบ่งบานไปทั่วทุกมุมโลก เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความนี้ถ้าชอบอย่าลืมกดไลก์ แชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆ และคอมเมนท์ด้วยนะครับ ไว้เจอกัญใหม่ในบทความหน้าครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก

Greenhealthdocs, Leafwell, Cannigma

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ GrowStuff ไฟปลูกต้นไม้ ปุ๋ย และอุปกรณ์การเกษตร
หรือบทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่ รวมบทความ Growstuff

Jive420 Avatar

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *