เทคนิคการปลูกกัญชา
หมายเหตุ: บทความนี้เขียนเพื่อให้ความรู้กับคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศที่การปลูกกัญชาถูกกฎหมายแล้ว ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ผู้ใดทำผิดกฎหมาย อนึ่ง การผลัดใบ (Defoliation) ในบทความนี้สามารถนำไปปรับใช้กับพืชชนิดอื่นเพื่อเพิ่มผลผลิตได้
สวัสดีพี่ ๆ น้อง ๆ นักปลูกสายเขียวทุกคน วันนี้พี่หมีมีอีกหนึ่งเทคนิคการปลูกกัญชามาแนะนำทุกคนได้ทำความรู้จักและพิจารณานำไปใช้กันเพื่อเพิ่มผลผลิตนะครับ
วิธีการที่พี่หมีกำลังพูดถึงนี้คือวิธีการผลัดใบ (Defoliation) ซึ่งได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในหมู่นักปลูกชาวต่างชาติที่ต้องการเพิ่มผมผลิตให้ต้นกัญชาของตัวเอง นอกจากพี่หมีจะมาอธิบายถึงความหมายของวิธีการผลัดใบ (Defoliation) แล้วยังมีวิธีการลงมือทำ รวมถึงข้อดีข้อเสียแบบเข้าใจง่ายมาให้ทุกคนอ่านด้วย
ทำความเข้าใจการผลัดใบ (Defoliation)
ภาพ: High Times Magazine
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจเจ้าวิธีการผลัดใบ (Defoliation) นี้กันก่อนนะครับ วิธีการที่ว่านี้คือการถอนใบออกจากต้นกัญชาของเราด้วยความเชื่อที่ว่าจะสามารถเพิ่มผลผลิตของต้นกัญชาที่ปลูกในร่มได้ อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้ปลูกว่าสามารถให้ผลตามที่มีการเคลมได้จริงไหม
นักปลูกบางคนตั้งคำถามว่าทำไมต้องทำให้ต้นกัญชาเสียพลังงานในการผลิตใบใหม่ มีผู้อธิบายว่าใบของพืชมีไว้เก็บสารอาหารเผื่อยามฉุกเฉิน เช่นเมื่อฝนแล้ง ขาดสารอาหาร หรือถูกรุกรานโดยศัตรูพืช อย่างไรก็ตาม สำหรับต้นกัญชาที่ถูกปลูกภายใน หรือแบบ indoor โดยมีการให้แสงจากไฟปลูกที่คงที่ ตั้งอุณหภูมิและค่าความชื้นโดยใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วนั้น ใบของมันอาจจะกลายเป็นภาระมากกว่าสิ่งดี (นึกภาพใบแน่นๆมาบั่งยอดหรือ nodes ไปหมด ทำให้ต้นไม่แตกยอดใหม่แต่ใบพวกนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ)
ทำให้การถอนใบของต้นกัญชาออกด้วยวิธีการผลัดใบ (Defoliation) เป็นการช่วยปลดภาระให้กับต้นกัญชาของคุณ ทำให้มันมีพลังงานมากขึ้นและ แสงสามารถส่องลงไปได้ถึง โคนต้นหรือใบที่อยู่ด้านล่างของต้นที่ปกติแล้วจะโดนบังแสง ช่วยทำให้ต้นแตกยอดใหม่ได้เยอะขึ้น และนั้นช่วยทำให้ได้รับผลผลิตเพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การผลัดใบยังช่วยให้อากาศถ่ายเทบริเวณลำต้น ที่สำคัญคือช่วยลดปัญหาที่มากับอุณหภูมิ/ความชื้นรวมไปถึงเชื้อราและแมลงศัตรูพืชซึ่งอาจจะทำให้ผลผลิตของเราลดลง
ข้อควรรู้: นักปลูกหลาย ๆ คนสับสนระหว่างวิธีการผลัดใบแบบ Defoliation และ Lollipoping ว่าเป็นอย่างเดียวกัน ซึ่งไม่ถูกต้องเสียทีเดียว พี่หมีจะมาบอกความแตกต่างในบทความหน้าที่พูดถึงวิธีการผลัดใบแบบ Lollipoping นะครับ (Lollipoping ทำช่วงต้นทำดอกครับ)
ขั้นตอนการผลัดใบ (Defoliation)
ภาพ: Fast Buds
ทำตอนไหน?
ก่อนที่เราจะเริ่ม นักปลูกต้องทราบก่อนนะครับว่าช่วงที่เหมาะกับการผลัดใบ (Defoliation) มากที่สุดคือช่วงกำลังโตหรือช่วง Vegetative Stage การทำในช่วงนี้จะช่วยให้ผู้ปลูกสามารถควบคุมต้นกัญชาได้ดีกว่าช่วงอื่น ๆ (ควรทำเมื่อรากเต็มกระถางแล้ว ไม่ควรทำช่วงที่ย้ายกระถาง หรือช่วงที่ต้นอ่อนแอครับ)
ทำอย่างไร?
สำหรับนักผลัดใบมือใหม่ พี่หมีแนะนำให้ใช้กรรไกรธรรมดาที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยแอลกอฮอล์มาแล้วเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้มีความสกปรกที่อาจจะนำโรคมาได้ (อย่าลืมนะครับว่าต้นกัญชาช่วงนี้ยังเป็นเบเบี๋อยู่) จากนั้นค่อย ๆ ตัดใบออกครั้งละน้อย ๆ ควรเริ่มจากใบเลี้ยงที่อยู่ล่างสุดก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นกัญชาเครียด โดยตัดที่ละ 5-10% ของใบในต้น ทุก ๆ 4 – 7 วัน (หรือหนึ่งอาทิตย์) จนกว่าจะพอใจ
ต้นกัญชาที่เพิ่งผ่านการผลัดใบ (Defoliation) ในช่วง Vegetative Stage (สัปดาห์ที่ 5)
ตัดใบไหน?
พี่หมีแนะนำให้เริ่มจากใบเลี้ยง (Fan Leaf) ใบเลี้ยงสังเกตได้ง่ายๆจะเป็นใบที่ออกจากกิ่งเพียงใบเดียว ก้านใบสามารถยาวและใหญ่ได้มากๆ โดยเริ่มจากใบเลี้ยงที่อยู่ล่างสุดครับ
ตัดเยอะแค่ไหน?
พี่หมีอยากให้จำไว้ว่าจุดประสงค์ของการผลัดใบ (Defoliation) คือการต้นกัญชาได้รับอากาศและแสงเพิ่ม เพราะฉะนั้นพี่หมีไม่สามารถบอกได้ว่าทุกคนควรตัดใบออกเยอะแค่ไหน อย่างไรก็ตามควรโฟกัสตัดในจุดที่มีความหนาแน่นเป็นพิเศษ
ข้อควรระวัง: ควรตัดเฉพาะใบเท่านั้น ไม่ควรตัดเลยไปถึงตาหรือ buds ของต้นเพราะอาจจะกระทบต่อการเจริญเติบโตได้ และสำหรับมือใหม่ที่อยากตัดออกเยอะ ๆ พี่หมีขอเตือนไว้ก่อนว่าจะกระทบกับกระบวนการสังเคราะห์แสงแน่นอน และอาจจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี
ต้นกัญชาที่ผ่านการผลัดใบ (Defoliation) ในสัปดาห์ที่ 10
อย่ายุ่งกับช่อบนสุดและใบที่โตเต็มที่แล้ว
ระหว่างที่นักปลูกกำลังเล็งว่าจะเอาใบไหนออกนั้น พี่หมีแนะนำให้อย่าไปแตะต้องช่อใบอ่อนที่อยู่บนสุดของก้านและรวมถึงใบที่โตเต็มที่แล้ว ดังนั้นให้เล็งไปที่ใบที่ยังไม่โตเต็มวัยนะครับ
วิธีการผลัดใบ (Defoliation) ไม่ใช่สำหรับทุกคน
ก่อนที่นักปลูกคนใดจะเริ่มลงมือผลัดใบด้วยวิธีการนี้ พี่หมีอยากให้ทำความเข้าใจและยอมรับวิธีการนี้อาจจะไม่ใช่สำหรับทุกคน นักปลูกต้องแน่ใจก่อนว่าของคุณ
- ต้องปลูกในร่มหรือ indoor โดยมีการควบคุ้มอุณหภูมิและความชื้นเป็นอย่างดี (พืชที่ปลูกภายนอกอาจจะไม่ได้ผลดีเท่าเพราะมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ศัตรูพืชและอุณหภูมิ
- ไม่อยู่ในสภาวะโตช้า
- ไม่มีโรคใดใดและอยู่ในสภาพแข็งแรงเต็ม 100%
- ไม่ขาดสารอาหาร
- อุณหภูมิในการปลูกไม่ร้อนเกินไป
- แสงไฟที่สว่างเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
นอกจากข้อสังเกตเบื้องต้นเหล่านี้แล้ว การผลัดใบ (Defoliation) แบบผิด ๆ อาจจะทำให้ต้นกัญชาโตช้าลงและอาจจะทำให้ผลผลิตลดลงด้วยนะ พี่หมีไม่อยากให้ใครเสียใจ
ข้อดีและข้อเสีย
ภาพ: Zamnesia
พี่หมีได้รวบรวมทั้งข้อดีและข้อเสียของวิธีการผลัดใบมาให้อ่านกันเพื่อเป็นการช่วยทุกคนตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการนี้ในการเพิ่มผลผลิตดีหรือไม่ เรามาดูการดีกว่า
ข้อดี
- ทำให้อากาศและแสงเข้าถึงดอกได้มากขึ้น
- ทำให้ดอกแน่นมากขึ้น
- ทำให้มีผลผลิตมากขึ้น
ข้อเสีย
- ทำให้ต้นกัญชาเกิดความเครียด
- ทำให้บางคนพลาดโอกาสที่จะมีประสบการณ์การปลูกแบบปกติ
เทคนิคการปลูกกัญชาต้องควบคู่กับการดูแลที่ดี
นอกจากการมองหาเทคนิคต่าง ๆ เพื่อนำมาเพิ่มผลผลิตแล้ว พี่มีแนะนำว่าเราไม่ควรละเลยที่จะเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ด้วยปุ๋ยที่มีคุณภาพให้กับต้นไม้ของเราด้วย นอกจากนี้อย่าลืมควบคุมดูแลสภาพแวดล้อมในการปลูกให้เหมาะสมโดยการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อความแม่นยำและเป็นการแบ่งเบาภาระของเราไปในตัวอีกด้วย
เทคนิคการดูแลต้นกัญชาอื่น ๆ
- วิธีดูแล Epipremnum pinnatum อิพิด่าง แบบ indoor โตโคตรไว ทุกๆ 4วัน ได้1ใบ+1ยอด
- วิธีการ Top ยอด เพิ่มยอดให้ต้นไม้ เพิ่มผลผลิตและดอก
- เทรนต้นกัญชา เทคนิคการใช้ตาข่าย เพิ่มผลผลิตให้ต้นกัญชา 200%+ (Scrog)
- กัญชาใบเหลือง เกิดจากอะไร? แก้ไขยังไงดี?
ขอบคุณข้อมูลจาก GrowWeedEasy | Royal Queen Seeds | 2fast4buds | Zamnesia
ภาพหน้าปก: Zamnesia และ KotiGrowers (Growdiaries.com)
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราสามารถคอมเม้นต์ข้างล่างหรือทักไปที่ Facebook ของเราได้เลย
ถ้าตัดไปครึ่งต้นจะตายมั้ยค่ะ
ต้องเทียบปริมาณใบที่เหลือครับ เช่นถ้าต้นยังเล็ก มีใบแค่ 5คู่ ถ้าเราตัดไปครึุ่งนคง ต้นจะรอดยาก แต่ถ้าต้นสมบูรณ์สูงระดับนึง เราตัดไปครึ้งนึงต้นก็ยังมีพลังงานสังเคราะห์แสงได้ ก็จะไม่มีปัญหาครับ